ประกาศคณะบริหารธุรกิจ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ 

เรื่อง การขายทอดตลาด

--------------------------------

                        ด้วย คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “มหาวิทยาลัย”   มีความประสงค์จะทำการขายทอดตลาดพัสดุชำรุด เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นพัสดุที่จัดหาเมื่อเป็นวิทยาเขตบพิตรพิมุข มหาเมฆ (เดิม) จำนวน  186 รายการ (บัญชีรายการพัสดุแนบท้าย) ราคากลางพัสดุชำรุดรวมทั้งหมด เป็นจำนวนเงิน 9,703.- บาท (เก้าพันเจ็ดร้อย  สามบาทถ้วน)

                        การขายทอดตลาดจะกระทำที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ

พื้นที่บพิตรพิมุข มหาเมฆ ณ โถง อาคาร 7 ในวันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2567 ลงทะเบียนเข้าร่วมการประมูลขายทอดตลาดพร้อมวางหลักประกัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 09.30 น. ดูพัสดุได้ที่บริเวณขายทอดตลาดได้ตั้งแต่เวลา 09.30 – 10.30 น. และขายทอดตลาดเวลา 11.00 น. ผู้ประสงค์จะเข้าร่วมประมูลราคา  แต่ไม่ได้ดูพัสดุนี้ให้ถือว่าทราบรายละเอียดและสภาพต่างๆ ของพัสดุที่จะขายทอดตลาดครั้งนี้ดีแล้ว และจะนำมาเป็นข้ออ้างใด ๆ ไม่ได้

           เงื่อนไขในการขายทอดตลาด มีดังนี้

               1. การขายทอดตลาดจะขายโดยวิธีประมูลด้วยวาจา และต้องเสนอราคาเป็นเงินบาทเท่านั้น

               2. ผู้เข้าสู้ราคาจะต้องลงชื่อรับรายละเอียดและเงื่อนไขจากแผนกพัสดุ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันที่  2 สิงหาคม 2567 (ผู้ที่ไม่มาลงชื่อและรับเงื่อนไขภายในเวลาที่กำหนดจะไม่มีสิทธิ์เข้าประมูล)

               3. ผู้เข้าสู้ราคาถ้าเป็นบุคคลธรรมดาให้นำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน โดยให้   ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องกำกับด้วย ถ้าเป็นนิติบุคคล ต้องแสดงบัตรประชาชน พร้อมสำเนาหนังสือรับรองของการจดทะเบียนนิติบุคคล หนังสือมอบอำนาจ พร้อมทั้งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ โดยให้ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องกำกับด้วย และติดอากรแสตมป์มาให้เรียบร้อย

               4. ผู้เข้าสู้ราคาต้องวางหลักประกันในจำนวนเงิน 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน)  กรณีเข้าประมูลราคาไม่ชนะการประมูลทางมหาวิทยาลัยจะคืนหลักประกันให้หลังจากการประมูลขายทอดตลาดเสร็จสิ้นลง

               5. ผู้เข้าร่วมประมูลต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เข้าประมูลราคารายอื่น ในการขายทอดตลาด หรือไม่เป็นผู้กระทำการขัดขวางการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม

               6. ผู้ประมูลราคาต้องเสนอราคาไม่ต่ำกว่าราคากลางเริ่มต้นที่คณะบริหารธุรกิจกำหนดไว้  โดยการเสนอราคาแต่ละครั้งต้องเสนอราคา  เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 500 บาท (ห้าร้อยบาทถ้วน) แต่ทั้งนี้ผู้เข้าประมูลราคาสามารถเสนอราคาเพิ่มเองได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้น

               7. ในระหว่างดำเนินการขายทอดตลาด หากไม่มีผู้ใดเสนอราคาสูงกว่าอีกแล้ว คณะกรรมการจะทำการปิดการประมูลขายทอดตลาด    โดยวิธีการนับ 1 ถึง 3 ให้ถือว่าผู้ที่เสนอราคาไว้สูงสุดคนสุดท้ายเป็นผู้ประมูลได้ แต่ในขณะที่ยังนับไม่ถึง 3 ผู้เข้าประมูลรายอื่นมีสิทธิเสนอราคา     ที่สูงกว่าได้        

              8. ผู้ประมูลราคา เสนอราคาสูงกว่าราคาเริ่มต้นที่คณะกำหนด และเสนอราคาสูงกว่าผู้ประมูลรายอื่น คณะกรรมการจะถือว่าเป็นผู้ชนะการประมูล ผู้ชนะการประมูลจะต้องจ่ายเงินสดทันที ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวไม่ได้รวมกับหลักประกัน ส่วนหลักประกันจะคืนให้ก็ต่อเมื่อผู้ชนะการประมูลขนย้ายพัสดุชำรุดเสร็จสิ้น

             9. คณะกรรมการดำเนินการขายทอดตลาด  ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติการขายทอดตลาดพัสดุชำรุดให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด  และคำตัดสินของคณะกรรมการฯ ถือเป็นเด็ดขาด ในกรณีมีเหตุจำเป็นคณะกรรมการดำเนินการขายทอดตลาด  มีอำนาจสั่งยกเลิก      ผลการอนุมัติหรือยุติ หรือเลื่อนการประมูลการขาดทอดตลาดออกไป  โดยพิจารณาถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ ผู้เข้าประมูลไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์หรือฟ้องร้องบังคับคดี ใด ๆ ทั้งสิ้น

             10. ผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระเงินค่าประมูลพัสดุชำรุดเต็มจำนวนของราคาที่เสนอภายในวันที่ประมูลขายทอดตลาด  ซึ่งจำนวนเงิน    ดังกล่าวไม่รวมกับหลักประกันการเข้าร่วมประมูล  หากผู้ชนะการประมูลไม่นำเงินมาชำระค่าประมูลพัสดุชำรุด จะถือว่าท่านสละสิทธิ์ และมหาวิทยาลัยจะริบหลักประกันการเข้าร่วมประมูลไว้ทันที  และจะนำพัสดุชำรุดดังกล่าวออกขายทอดตลาดใหม่  ตามวิธีที่มหาวิทยาลัยกำหนด    หากการประมูลการขายทอดตลาดใหม่ได้ราคาเมื่อรวมกับเงินค้ำประกันการเข้าประมูลน้อยกว่าราคาขายทอดตลาดครั้งก่อน  ผู้ชนะการประมูลพัสดุชำรุดดังกล่าวจะต้องรับผิดชอบและชดใช้เงินในส่วนที่ขาด  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 516

             11. ผู้ชนะการเสนอราคาต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการขนย้าย และค่าใช้จ่ายอื่นทั้งปวงที่จะเกิดขึ้น

             12. เมื่อผู้ชนะการประมูลได้ชำระเงินให้แก่มหาวิทยาลัยครบถ้วนแล้ว ผู้ชนะการประมูลจะต้องรีบขนย้ายพัสดุที่ประมูลได้ทั้งหมดออกจากพื้นที่ของมหาวิทยาลัยพร้อมทั้งเก็บเศษพัสดุและทำความสะอาดพื้นที่นั้นให้แล้วเสร็จ ภายในกำหนดเวลา 3 วันทำการ นับจากวันที่ชำระเงินครบถ้วนแล้ว หากมิได้ขนย้ายทันที และพัสดุที่ประมูลได้เกิดความเสียหายหรือสูญหาย มหาวิทยาลัย จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น

             13. ในกรณีที่มหาวิทยาลัย ได้ออกประกาศขายทอดตลาดไปเรียบร้อยแล้วแต่ภายหลังปรากฎว่า มหาวิทยาลัยไม่สามารถดำเนินการขายได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามมหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิที่จะยกเลิกการขายทอดตลาดครั้งนี้ได้ โดยผู้ประมูลจะถือเป็นเหตุนำมาเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญและให้ถือว่าการตัดสินของมหาวิทยาลัยเป็นเด็ดขาด ผู้ประมูลได้  จะเรียกร้อง        ค่าเสียหายใด ๆ มิได้ ผู้ประมูลจะต้องปฏิบัติตามประกาศนี้โดยเคร่งครัด

             14. มหาวิทยาลัย ถือว่าผู้สู้ราคา ได้รับทราบและยอมรับสภาพ รายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพัสดุที่สู้ราคา ก่อนการสู้ราคาจะเริ่มขึ้นโดยละเอียดครบถ้วนแล้ว

             ผู้สนใจสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายพัสดุ สำนักงานคณบดีคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ อาคาร 9 ชั้น 1 พื้นที่บพิตรพิมุข มหาเมฆ โทรศัพท์  02-287-9600 ต่อ 2525-2527 ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ถึง วันที่ 2 สิงหาคม 2567      ในวันและเวลาราชการ

                   ประกาศ  ณ  วันที่   25   กรกฎาคม  พ.ศ.  ๒๕67

                             (ผู้ช่วยศาสตราจารย์กิตติพงษ์  โสภณธรรมภาณ)

                             คณบดีคณะบริหารธุรกิจ

Attachments:

File	Description
ประกาศขายทอดตลาด.pdf
รายการพัสดุชำรุด.pdf